บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาที่จะมาบอกว่าถ่ายภาพด้วยฟิล์มดีกว่าดิจิตอล หรือมาเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของ ฟิล์ม และดิจิตอล เพราะน่าจะมีคนเขียนไว้เยอะพอสมควรแล้ว แต่ผมจะมาอธิบายให้ฟังว่าทำไมผมถึงชอบถ่ายภาพด้วยฟิล์ม และทำไมผมถึงอยากให้คุณหรือคนอื่นถ่ายภาพด้วยฟิล์มกันมากขึ้น
เริ่มต้นจากที่ตัวเองชอบถ่ายภาพมาตั้งแต่เด็ก เติบโตมาในยุค Analog เห็นการถ่ายภาพด้วยฟิล์ม และได้มีโอกาสถ่ายภาพด้วยฟิล์มด้วยกล้องฟิล์มคอมแพคตั้งแต่เด็กๆ จำภาพของตัวเองในวัยเด็กตามสถานที่ต่างๆอย่างเมืองจำลอง งานโรงเรียน งานวันเกิด พอโตมาหน่อยก็ได้มีโอกาสเล่น Skateboard ก็เลยได้มีโอกาสได้ดูหนังสือ skateboard เยอะขึ้น ดูภาพถ่าย ดูมุมมองต่างๆทั้งภาพนิ่ง และวีดีโอ รวมถึงถ่ายภาพและถ่ายวีดีโอด้วย พอได้ไปเรียนที่ อเมริกา ก็พกกล้อง Sony Cybershot ติดตัวไว้ตลอดเวลา ผมถ่ายภาพมาทั้งฟิล์มและดิจิตอล ทั้งกล้อง Lomo และกล้องระดับกลางไปจนถึงโปร เรียกว่าแทบจะทุก format จะติดอยู่แค่ Large Format เท่านั้นที่ยังไม่เคยได้เล่น (update ล่าสุด ตอนนี้ผมเป็นเจ้าของกล้อง Large Format เป็นที่เรียบร้อย เมื่อปลายปี 2017 นี่เอง) นอกจากจะชอบถ่ายภาพ ยังชอบสะสมกล้องที่มีดีไซน์สวยงาม Limited Edition และเรียนรู้การทำงานของกล้องมาก พอมีโอกาสได้ทำงาน เปิดร้านเสื้อผ้า ก็ได้มีโอกาสถ่าย lookbook หรือแม้กระทั่ง packshot อยู่สม่ำเสมอตั้งแต่แรก เพราะยังไม่มีเงินจ้างใคร และเวลาได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวประเทศต่างๆ นอกจากเดินเล่น shopping เสื้อผ้าและรองเท้าผ้าใบแล้ว ผมก็มักจะหาโอกาสแวะไปย่านที่ขายกล้องมือสองอยู่ตลอดเวลา เพื่อศึกษาและหาแรงบันดาลใจใหม่ๆในการถ่ายรูปอยู่เสมอ
กลับมาคำถามที่ว่า ทำไมถึงต้องถ่ายฟิล์ม ? ทำไมต้องทำตัวแก่ เก๋า ตกยุคสมัย ทั้งที่ยุคสมัยนี้ทุกคนสามารถถ่ายภาพได้ด้วยกล้องดิจิตอล และสามารถดูภาพ หรือนำภาพไปใช้ลงคอม หรือโพสลง social media ได้เลย ทำไมต้องทำอะไรช้าๆ ต้องรอภาพจากกล้องฟิล์มที่อาจจะใช้เวลาถึงสัปดาห์ กว่าจะได้ดูรูปพวกนั้น ผมอาจจะแบ่งแยกเหตุผลส่วนตัวเป็นข้อๆให้พอเข้าใจได้ประมาณนี้
1.ความเป็นคาแรคเตอร์ของฟิล์ม
เวลาถ่ายรูปด้วยมือถือ หรือกล้องดิจิตอล ปกติจะชอบปรับให้มันได้ความรู้สึกเหมือนภาพจากกล้องฟิล์มอยู่แล้ว เลยเกิดความคิดว่า แล้วทำไมเราไม่ถ่ายฟิล์มไปเลย จะได้เอาเวลาที่เราจะมานั่งคัดรูป นั่งแต่งรูปให้มันดูเหมือนฟิล์ม ไปมีสมาธิและทำความรู้จักกับอุปกรณ์ รวมถึงแสงธรรมชาติ ใช้เวลากับแต่ละโมเม้นที่มันอยู่ตรงหน้าให้มากกว่าที่จะมาใช้เวลาแต่งภาพหน้าคอม
2. ฝึกสมาธิ
การถ่ายฟิล์มทำให้เราทำอะไรช้าลง คิดแล้วคิดอีก ปกติเวลาเรามีกล้องดิจิตอลห้อยคอ เราอยากจะถ่ายอะไรก็ถ่าย ออกจากบ้านวันนึงบางทีมีรูปที่ไม่ได้อยากถ่ายเยอะมาก บางทีก็รกคอม และส่วนใหญ่จะถ่าย AUTO เราไม่เคยจะจำค่าอะไรทั้งนั้น Speed เท่าไร F เท่าไร ISO เท่าไร ขอแค่ภาพใช้ได้ก็พอ แต่พอมาถ่ายฟิล์มทุกครั้งที่เราจะถ่าย เราต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะฟิล์ม 35mm ม้วนนึงถ่ายได้แค่ 36 รูป กด shutter แต่ละครั้งก็คือเงิน ถ้าเราถ่ายมั่วๆ เท่ากับเอาเงินไปทิ้งโดยเปล่าประโยชน์ ทำให้เราต้องกลับมาตั้งสติ วางแผนว่าเรากำลังจะถ่ายอะไร วางเฟรมประมาณไหน แสงประมาณไหน ต้องเปิดรูรับแสงเท่าไร ความเร็วชัตเตอร์เท่าไร ถึงจะได้ภาพใกล้เคียงที่เราจินตนาการไว้ ฝึกใช้สมอง และสมาธิได้เป็นอย่างดี
3. ไม่หยุดที่จะเรียนรู้
ไม่ได้เรียนมาทางด้านศิลปะ แต่มีความชอบมาตั้งแต่เด็กแล้ว วาดภาพไม่ได้ แต่ชอบดนตรีกับถ่ายภาพ ล่าสุดพึ่งไปลงเรียนคอร์สล้างอัดภาพจากฟิล์มทำให้เราสนุกกับการถ่ายภาพด้วยฟิล์มมากขึ้น เมื่อก่อนคิดว่าการที่เราถ่ายมันก็มีกระบวนการคิดมากมายที่จะให้ภาพได้เป็นอย่างที่เราต้องการ พอเราถ่ายเอง เลือกฟิล์มเอง เลือก setting ทุกอย่างเองหมดแล้ว พอได้ล้างเอง เราอัดภาพเอง มันเหมือนกับเรากำลังสร้างสรรค์อะไรบางอย่างอยู่จริง มันสนุกไม่ต่างกับการถ่ายภาพเลย และการทำอะไรพวกนี้มันคือการฝึกฝนกระบวนการถ่ายภาพได้เป็นอย่างดี
4. คุณภาพ / สัมผัส
คุณภาพของฟิล์มมีความละเอียด และมีค่ามาก มันเก็บได้เป็นร้อยๆปี มันจับต้องได้จริง เราเคยเห็นภาพเก่าเมื่อ 100-200 ปีจากฟิล์ม ฟิล์มเหล่านั้นยังคงนำมาอัดได้ แต่ดิจิตอลมันพึ่งมาแค่ 10 กว่าปี ไม่รู้มันจะอยู่ไปอีกนานแค่ไหน ความทรงจำของผมหายไปบางส่วนกับดิจิตอล harddisk พังบ้าง แผ่น CD พังบ้าง Memory หายบ้าง ทุกวันนี้มีลูก เราเลยอยากจะถ่ายภาพจากฟิล์มเก็บไว้เพื่อเตือนความทรงจำ และเก็บไว้ให้เค้าได้ดูในวันที่โตขึ้น ไม่แน่ใจว่าอีก 20 ปี ดิจิตอลจะเปิดดูได้อยู่หรือเปล่า ขนาดภาพเมื่อยุคแรกของดิจิตอลที่ถ่ายด้วยกล้อง Sony Cybershot ตอนนี้ไฟล์ภาพยังแตกเวลาเอาไปลง Instagram เลย
5. เรียนรู้จากการผิดพลาด
การถ่ายภาพด้วยฟิล์ม ทำให้คุณต้องเรียนรู้อะไรอีกมาก ในหนึ่งม้วนมักจะมีภาพที่ไม่สมบูรณ์ไม่ว่าจะจากกรณีใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นแสงรั่วเนื่องจากลืมกรอฟิล์ม หรือเผลอไปกด shutter แต่มันก็เป็นบทเรียนให้เราได้เรียนรู้อยู่เสมอ ความไม่สมบูรณ์แบบนี่แหละคือความสุขของการถ่ายฟิล์ม
5. ช่วยเตือนความจำ
จากวันที่ถ่ายรูป จนถึงวันที่ได้รับฟิล์มกลับมา อาจจะใช้เวลายาวนานจนถึงสัปดาห์หรือเป็นเดือน ทุกครั้งที่เราได้ดูภาพที่เราถ่ายไปในอดีต มันก็สามารถเตือนความจำได้เป็นอย่างดี ถึงเรื่องราวและเหตุการณ์ในตอนนั้น แต่ในบางครั้งก็จะมีภาพบางภาพที่ทำให้เราต้องคิดอยู่นานกว่าจะนึกออก
ถ้าเกิดถามผมว่า ทำไมผมถึงถ่ายภาพด้วยฟิล์ม คำตอบก็คือผมสนุกกับทุกขั้นตอนของมัน ตั้งแต่กระบวนการคิดจนถึงผลลัพธ์ การถ่ายภาพด้วยฟิล์มทำให้ผมมีสมาธิมากขึ้น เพราะเราต้องรู้จักคิดล่วงหน้า ต้องมีการไตร่ตรองให้ดี รู้จักสังเกตุ ฝึกคิดเป็นขั้นตอนว่าอยากให้ภาพออกมาเป็นอย่างไร แล้วต้องทำอย่างไร ตั้งค่าอย่างไร วางเฟรมอย่างไร ซึ่งต่างกับตอนถ่ายด้วยกล้องดิจิตอลที่มักจะถ่ายไปเรื่อยๆ โดยไม่คิดอะไร และไม่จำค่าหรืออ่านค่าอะไรเลย