Craving for Wonderfruit festival 2018

Wonderfruit Festival เกิดขึ้นจากการที่ทีมงานผู้จัดอยากให้ทุกคนรักโลก สนใจเรื่องของการดำรงชีวิต และใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการสร้างสรรค์ในดนตรี ศิลปะ และการกินดื่มที่ดี เพราะทุกการคัดสรรที่ Wonderfruit เลือกมาไม่ว่าจะเป็น workshop งานฝีมือ หรือเกี่ยวกับการพัฒนาตัวเอง ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้าที่มาเปิดขายคือร้านที่กวาดรางวัลหรือร้านชั้นนำทั้งสิ้น

ไม่ว่าจะเป็นเวทีที่ได้นักออกแบบชื่อดังมาร่วมออกแบบให้ใช้วัสดุอย่างฉลาดและใช้งานได้จริง หรือเหล่า Installation Art และซุ้มต่างๆ แม้กระทั่งกำแพงห้องน้ำที่ตั้งใจสร้างขึ้นจากวัสดุ Recycle หรือเหลือใช้จากธรรมชาติและจากการจัดงานในปีก่อนๆ (อย่างเช่น ถังขยะในงานปีนี้ ทำขึ้นจากไม้ไผ่ที่เหลือใช้จากเวที The Quarry ในปีก่อน) แก้วหรือจานอาหาร ที่เป็นวัสดุที่ย่อยสลายง่าย ไม่ใช่แค่เรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่งานนี้ยังนำเอาเทคโนโลยีสุดล้ำอย่างสายข้อมือเพียงเส้นหรือสองเส้นหลักๆ ที่คอยใช้ตรวจลงทะเบียนในการเข้าออก รวมถึงเติมเงินและใช้จ่ายผ่านสายข้อมือได้เลย นอกจากนี้ยังมี App ในมือถือ ให้ตรวจสอบตารางเวลาการแสดงแต่ละเวทีที่คอย update แบบ real time และตำแหน่งของแต่ละเวทีได้ด้วย งานนี้จึงไม่ได้เหมาะแค่กับผู้ใหญ่คนที่ชื่นชอบดนตรีหรือ party เท่านั้น แต่ยังเหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย โดยที่พยายามใช้ Art & Music อย่างฉลาดเพื่อเป็นตัวเชื่อมโยงคนเหล่านั้นเข้ากับกิจกรรมที่แอบปลูกฝังให้ทุกคนรู้จักการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ

Wonderfruit เป็น Festival 4 วันต่อเนื่องที่มีกิจกรรมให้ทำตลอด 24 ชม. ทั้ง 4 วัน ตลอดเวลา 2 วันเราที่ได้เข้าไปร่วมอยู่ในนั้นรู้สึกว่าตัวเองได้รับประสบการณ์อะไรใหม่ๆ ทั้งทางด้านดนตรี (เพราะเราตั้งใจว่าจะเตรียมตัวไปให้น้อยที่สุด แทบไม่ดู Line Up) เราพร้อมที่จะไปเปิดหูเปิดตากับสิ่งที่เราไม่รู้จัก ได้ปล่อยใจปล่อยความคิดให้เป็นอิสระไปกับงานสถานที่ และกิจกรรมหรือซุ้มต่างๆในงาน รวมถึงใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติมากขึ้น ได้เดินมากกว่าเคยเดิน เต้นมากกว่าที่เคยเต้น นั่งบนสนามหญ้าและอยู่กับธรรมชาติมากกว่าที่เคยทำมาในรอบหลายปี สิ่งที่ได้รับจากงานครั้งนี้ของแต่ละคนก็คงไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนเปิดรับอะไรบ้าง และมากน้อยแค่ไหน แต่สำหรับผมมันมีบางอย่างคล้ายคลึงกับที่ผมได้ไปเที่ยวต่างประเทศ ไปในภูมิประเทศที่ไม่คุ้นเคย ได้เจอวัฒนธรรมที่แตกต่าง ถ้าเราเปิดใจเรียนรู้ และนำข้อดีที่เรามองเห็นมามองสะท้อนถึงสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ในปัจจุบัน ว่ามีสิ่งใดที่ดีกว่าที่เราเคยรู้ เคยเป็น และสิ่งใดที่เราจะเริ่มทำเพื่อพัฒนาตัวเองและคนรอบข้างได้บ้าง ได้เห็นงานออกแบบ ผลิตภัณท์ อาหาร วงดนตรี รวมไปถึงกิจกรรมที่สร้างสรรค์จากหลายคนที่มี passion กับงานที่ตัวเองทำในแต่ละสาขา จึงไม่แปลกที่ทำให้ Wonderfruit เป็น Festival ที่ให้ความรู้สึกแตกต่างจาก Festival ที่เคยไปมาอย่างสิ้นเชิง

ถึงแม้งาน Wonderfruit Festival จบไปแล้วหลายเดือน หรือจนเป็นปี แต่ยังไม่มีวันไหนที่เราและเพื่อนๆ จะหยุดพูดถึงหรือคิดถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในงานนี้ มันคงเป็นความรู้สึกประทับใจที่เราได้รับจากรายละเอียดเล็กๆน้อย หลายๆอย่างในงานจึงทำให้เราวางแผนกันล่วงหน้าเป็นปี จองโรงแรม จองตั๋วกันเพื่อที่จะกลับไปลุย Wonderfruit 2018 กันอย่างแน่นอน

See all the wonderers on the field.