“A photo isn’t a photo until it’s printed”
ระหว่างที่ผมนั่งดูนิตยสารเล่มหนึ่งในร้านกาแฟ ผมก็ไปเตะตาเข้ากับประโยคนี้ เป็นประโยคที่อ่านแล้วต้องอ่านซ้ำอีกรอบ ตอนนั้นรู้สึกแบบว่า จริงด้วยแฮะ สมัยก่อนถ้าเราถ่ายภาพ แล้วไม่อัดหรือปริ้น มันจะเป็นภาพถ่ายได้ยังไง ด้วยยุคสมัยเปลี่ยนไป เราเปลี่ยนวิธีการดูภาพ จากการถือจับดูภาพเป็นใบบนกระดาษ หรือใน Photo Album เป็นดูผ่านหน้าจอดิจิตอล ไม่ว่าจะจอเป็นคอมพิวเตอร์ Ipad หรือ โทรศัพท์มือถือ เทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้เรามีภาพเป็นพัน หมื่น หรือแสนภาพ พกอยู่กับตัวเรา ไปไหนมาไหนด้วยกันได้ ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา แต่ว่าจะมีสักกี่ครั้งที่เราย้อนเปิดไปดูภาพเหล่านั้นจริงๆ
วันนี้ผมจะมาบอกเหตุผลดีๆ 3 ข้อ ที่ทุกคนควรปริ้นหรืออัดรูปความทรงจำดีๆของคุณไว้บ้าง หรือไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
1. Cloud & HDD ไม่อยู่ยาวนาน
หากคุณคิดว่าคุณเก็บทุกอย่างไว้อย่างดีที่ Harddisk หรือ Computer ตัวเอง จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องไฟล์บน Cloud หาย แต่จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเราเกิดทำ External Harddisk ตก คอมพิวเตอร์พัง หรือหาย ต่อให้ใช้เงินมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถกู้ภาพถ่ายเหล่านั้นกลับมาได้อยู่ดี
คงจะยากที่จะคาดเดาว่า ใน 10-20 ข้างหน้าเราจะดูภาพถ่ายด้วยเครื่องมือแบบไหน เมื่อวันที่เทคโนโลยีก้าวผ่านไปอีกขั้น ถ้ามองย้อนกลับไปเมื่อสัก 10-15 ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีมีผลอย่างมากกับการพัฒนาการของการถ่ายภาพ ในยุคแรกเริ่มของ Digital Photography เราเคยเก็บภาพไว้ในรูปแบบของ Memory Card ที่มีความจุเพียงไม่กี่ Mb. จากนั้นก็เก็บใส่แผ่น CD หรือ DVD แต่ในปัจจุบันคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ๆก็ไม่รองรับเทคโนโลยีที่ล้าสมัยเหล่านั้นแล้ว หรือแม้กระทั่งไฟล์ภาพสมัยนั้น ก็ไม่ได้คุณภาพเพียงพอที่จะดูในหน้าจอที่ละเอียดเช่นวันนี้ และนี่คงเป็นเหตุผลที่เราต้องปริ้น หรืออัดภาพถ่ายของเราไว้บ้าง ไม่มากก็น้อย เพื่อเป็นหลักประกันว่าภาพถ่ายสำคัญของช่วงชีวิตของเราจะยังพอได้หลงเหลือและส่งต่อไปสู่ลูกหลานได้บ้าง
2. It becomes a tangible memory / ความทรงจำที่จับต้องได้
ภาพถ่ายที่ถูกปริ้นหรืออัดออกมา เป็นสิ่งที่เรา เพื่อนฝูง คนในครอบครัว หรือแม้กระทั่งลูกหลานของเราสามารถจับต้องได้ สามารถถือ สัมผัส หรือเข้าไปมองใกล้ๆได้จริง ไม่ว่าภาพถ่ายนั้นจะถูกแขวนโชว์อยู่บนกำแพง ตั้งโชว์อยู่บนโต๊ะ หรือสอดอยู่ในอัลบัมรูปก็ตาม ที่สำคัญคือคุณไม่ต้องไปเข้าไปตามหาใน folder ที่ถูกซ่อนอยู่ให้ยุ่งยาก ตามวันที่ตามปี (ที่มีแค่คุณคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่ามันถูกเก็บไว้ที่ไหน)
“We take photos as a return ticket to a moment otherwise gone.”
แต่ภาพถ่ายที่ถูกปริ้นออกมามันอยู่ตรงนั้น บนกำแพง หรือใน album ให้เราและคนอื่นๆเปิดดู ยืนมอง หรือเข้าไปมองใกล้ๆได้เลย และเมื่อเรามองไปที่ภาพถ่ายเหล่านั้น มันเป็นเครื่องเตือนความจำถึงเหตุการณ์สำคัญในตอนนั้นได้อย่างดี มันทำให้เราจำได้ถึงบรรยากาศ ถึงความรู้สึกที่เรามีทั้งก่อนและหลังภาพถ่ายใบนั้น ความรู้สึกต่อคนในภาพถึงแม้ว่าจะไม่ได้พบเจอกันนานแล้วก็ตาม ภาพถ่ายคอยเตือน และทำให้เราเห็นความเติบโต เปลี่ยนแปลง ของตัวเราเองและคนในภาพ
ภาพถ่ายที่ถูกพิมพ์ออกมาหรืออัดเก็บไว้ยังช่วยให้คนในครอบครัวที่ไม่ได้เก่งเรื่องเทคโนโลยีอย่างคุณพ่อ คุณแม่ หรือลูกหลาน สามารถเข้าถึงและหาเจอภาพเหตุการณ์สำคัญๆ อย่างวันเกิด วันที่เรียนจบ วันที่อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเหล่านั้นได้อย่างง่าย หรืออย่างแย่ที่สุด เมื่อเวลาผ่านไปแล้วคุณอยากได้ไฟล์ Digital คุณก็ยังนำภาพเหล่านี้กลับไปแปลงเป็น Digital File หรือสแกนเป็นไฟล์ดิจิตอลได้อยู่ดี
3. Print ทำให้คุณเป็นช่างภาพที่เก่งและดีขึ้น
เรากำลังอยู่ในยุคที่ใครๆก็สามารถถ่ายภาพได้ด้วยโทรศัพท์มือถือและแชร์ภาพถ่ายลงใน Social Media ได้ แต่การที่เราถ่ายภาพเพื่อแชร์ใน Social Media กับถ่ายภาพเพื่อนำไปปริ้นนั้นก็แตกต่างกัน เมื่อคุณจะถ่ายเพื่อภาพปริ้นหรืออัดภาพขนาดใหญ่ คุณจะต้องคิดมากขึ้น ต้องใส่ใจในรายละเอียดก่อนถ่ายมากขึ้น และการปริ้นภาพขนาดใหญ่จะทำให้คุณเห็นรายละเอียดของภาพได้ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งบางครั้งคุณไม่สามารถสังเกตุได้ในขณะที่ถ่ายมัน ถึงแม้คุณจะสามารถซูมดูได้ในคอมพิวเตอร์ แต่ว่าคุณไม่สามารถเห็นภาพเต็มได้อยู่ดี ซึ่งการที่คุณได้มีโอกาสมองภาพที่ถูกปริ้นออกมานั้น ทำให้คุณเห็นองค์ประกอบของภาพได้ครบถ้วน รวมไปถึงเห็นข้อบกพร่อง อะไรที่สามารถแก้ไขได้ในการ edit ภาพ หรือในการถ่ายครั้งต่อไป
และเมื่อคุณปล่อยให้การปริ้นภาพเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญของการถ่ายภาพของคุณด้วยแล้ว มันจะยิ่งกระตุ้นให้คุณอยากจะสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้ดียิ่งขึ้นในทุกๆครั้งที่คุณถ่ายภาพ นั่นหมายถึงการศึกษาหาข้อมูล และลงมือปฏิบัติ ที่จะเป็นผลแห่งการทำให้คุณเป็นช่างภาพที่ดีและเก่งขึ้นจากเดิมได้
นอกเหนือจากการปริ้นรูปจะทำให้เราเป็นช่างภาพที่เก่งขึ้นแล้ว ยังทำให้เราเข้าใจในภาพถ่าย และค้นหาสไตล์ของเราเองได้ง่ายขึ้นด้วย เมื่อเราได้นั่งดูรูปของตัวเองที่ปริ้นออกมาเป็นใบๆในมือ แทนที่จะดูผ่านจอ ทำให้เราได้เข้าใจภาพถ่ายของเรามากขึ้น ได้รู้ว่าภาพถ่ายสไตล์ไหน แบบไหนที่เราชอบถ่ายมากที่สุด ทำไมเราถึงถ่ายมัน อย่างเช่นคุณอาจจะชอบถ่ายภาพธรรมชาติ มากกว่าที่จะถ่ายคน และเมื่อคุณเข้าใจตัวเองมากขึ้น คุณก็จะได้สามารถพัฒนาตัวเองไปในทางที่ถนัดและชอบได้ง่ายขึ้นด้วย
และนี่คือเหตุผล 3 ข้อที่ผมอยากจะชวนให้ทุกคนเริ่มปริ้นรูปของตัวเองเก็บไว้ ไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นอัดดิจิตอลปริ้น ปริ้นเองที่บ้าน หรือแม้กระทั่งอัดในห้องมืด หรือทำเป็นหนังสือภาพ ทุกวิธีที่กล่าวมาล้วนมีประโยชน์กับตัวคุณเองและคนในครอบครัวทั้งสิ้น
เราไม่แน่ใจว่าไฟล์ดิจิตอลจะอยู่กับเราไปอีกนานแค่ไหน แต่ภาพถ่ายที่ถูกปริ้นออกมา เราเห็นมันอยู่ได้หลายสิบปี บางกระบวนการอยู่ได้เป็นร้อยปีด้วยซ้ำ ถ้าความทรงจำของทุกคนมีวันที่เลือนลางหมดไป บางครั้งเราอาจจะต้องการภาพถ่ายที่หยุดความทรงจำดีๆของช่วงเวลานั้น ปริ้นออกมาเก็บไว้บ้างเพื่อเตือนตัวเองในวันที่เรารู้สึกท้อแท้ หรือเหนื่อยกับหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบในชีวิตบ้างเท่านั้นเอง
Comments
There are no comments yet.